keyboard mechanical

keyboard mechanical

Keyboard Mechanical Gadgetสุดฮิตของทุกวัย

mechanical keyboard คือ อีกหนึ่งไอเทมที่ใครหลายๆคนต่างก็ชื่นชอบ เพราะเป็นคีย์บอร์ดที่สามารถเลือกปุ่มกด (Keycap) มาตกแต่งเองได้  หลายๆคนถือว่าเป็นงานอดิเรกได้เลยในการปรับแต่งคีย์บอร์ดให้ตรงตามกับความต้องการของตัวเอง โดยสามารถเลือกได้เองตั้งแต่สวิตซ์ (Switch) เคส (Case) และอื่นๆอีกมากมาย เพราะเป็นคีย์บอร์ดในรูปแบบคัสตอมนั่นเอง keyboard mechanical ถือว่ามีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในเหล่าวงการเกมเมอร์ แต่ในปัจจุบันเริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพราะหลายๆยี่ห้อต่างก็ออกแบบคีย์บอร์ดให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น อีกทั้งยังแข่งกันเรื่องดีไซน์ของ คีย์บอร์ด mechanical ว่าจะสวยถูกใจลูกค้าหรือไม่อีกด้วย บอกเลยว่าคีย์บอร์ดแบบนี้จะช่วยให้การพิมพ์งานหรือเล่นเกมสนุกได้อย่างแน่นอน

ขนาดของแมคคานิคอลคีย์บอร์ด

ถ้าเป็นคีย์บอร์ดในรูปแบบปกติที่ใช้กันทั่วไปตามสำนักงานหรือตามออฟฟิศต่างๆ มักจะเป็นคีย์บอร์ดแบบ 100% ซึ่งก็คือ แบบที่มีแป้นตัวเลข (Numpad) แต่สำหรับ คีย์บอร์ดแมคคานิคอล ไม่ได้มีเพียงแค่ขนาดเดียว เพราะถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งาน รวมถึงการพกพาอีกด้วย มาดูกันว่ามี ขนาดคีย์บอร์ด เท่าไหร่บ้าง

  • 60% : สำหรับ คีย์บอร์ด 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นคีย์บอร์ดที่มีขนาดเล็กที่สุด โดยจะตัดส่วนที่เป็น F1-F12 และแถว Numpad ทั้งหมด และจะจัดเรียงปุ่มชิดกัน เหมือนแป้นพิมพ์บน Notebook 
  • 65% : จะไม่ต่างจาก 60% เท่าไหร่นัก แต่ทางฝั่งขวาสุดของคีย์บอร์ดจะมีปุ่มเพิ่มเข้ามาเป็นปุ่ม Home Del PageUp PageDown เป็นต้น สามารถพกพาไปทำงานนอกบ้านได้แบบสบายๆ
  • 75% : TKL (Ten Key Less Keyboard) หรือ คีย์บอร์ด 75 เปอร์เซ็นต์ เป็นคีย์บอร์ดที่เหล่าคนวัยทำงานใช้งานเยอะที่สุด เนื่องจากยังคงมีปุ่ม F1-F12 ไว้สำหรับกดคีย์ลัดได้อย่างรวดเร็ว แต่ตัดปุ่ม Numpad ออกไป ทำให้โต๊ะทำงานมีพื้นที่มากขึ้นนั่นเอง
  • 80% : keyboard tkl อีกหนึ่งรูปแบบที่หลายคนนิยม รูปแบบการจัดวางปุ่มจะเหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป แต่ตัดปุ่ม Numpad ออกเท่านั้น
  • 100% : หรือก็คือคีย์บอร์ดแบบ Full Size มีปุ่มครบทุกอย่าง อีกทั้งบางแบรนด์ยังเพิ่มลูกเล่นโดยการเพิ่มจอหรือเพิ่มปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงเข้ามาให้อีกด้วย แต่คีย์บอร์ดขนาดนี้เป็นที่รู้กันว่าไม่เหมาะกับการพกพาแน่นอน
keyboard mechanical

รูปแบบสวิตซ์ที่ใช้กับ Mechanical Keyboard

แมคคานิคอล คีย์บอร์ด มีรูปแบบสวิตซ์ให้เลือกใช้อย่างมากมาย แต่วันนี้ทางเราจะมาแนะนำให้รู้จักกับรูปแบบสวิตซ์ 3 รูปแบบหลักๆที่มักจะนิยมใช้กันใน คีย์บอร์ดเกมมิ่ง ซึ่งสวิตซ์แต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันตั้งแต่รูปแบบการทำงาน เสียง ดังนี้

  1. Blue switch : เป็นรูปแบบสวิตซ์ที่กดลงไปแล้วจะมีเสียง Clicky อย่างชัดเจน เป็นการกดแบบ 2 จังหวะ ทำให้มีเสียงค่อนข้างดัง ใครที่ชอบเล่นเกมหรือพิมพ์งานแบบมีเสียงดังๆต้องชอบแน่นอน แต่คงไม่เหมาะเท่าไหร่หากจะนำไปใช้ทำงานในออฟฟิศ เนื่องจากอาจจะเสียงดังรบกวนคนอื่น
  2. Red Switch : สวิตซ์รูปแบบนี้นับว่ามีความเงียบมากที่สุด กดแล้วนิ่ม กดเพียงจังหวะเดียวจึงไม่ส่งเสียงดังเหมือน Blue เป็นสวิตซ์ที่มีการตอบสนองเร็ว เหมาะทั้งกับการเล่นเกมและทำงาน
  3. Brown Switch : รูปแบบสวิตซ์แบบ Tactile มีแรงกดสองจังหวะแต่ให้เสียงที่เงียบกว่า blue เพราะเป็นสวิตซ์ที่ถูกออกแบบมาให้อยู่กึ่งกลางระหว่าง Blue switch และ Red Switch

แต่ในปัจจุบันอาจจะพบเจอชื่อสวิตซ์นอกเหนือจากนี้ได้อีกมากมาย เพราะหลายๆแบรนด์คีย์บอร์ดก็ทำออกมาแข่งกัน ไม่ว่าจะเป็น Yellow Switch,black switch หรือ Green Switch ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันที่จังหวะกด เสียงที่ออกมา รวมถึงการตอบสนองว่าเร็วหรือช้าอีกด้วย

จุดเด่นของแมคคานิคอลคีย์บอร์ด

 แน่นอนว่าการที่แมคคานิคอลคีย์บอร์ดได้มาเป็นที่นิยมมากขึ้น ต้องมีจุดเด่นอะไรบางอย่างที่ทำให้คนหันมาสนใจ รวมถึงหลายๆคนก็หันมา แนะนําคีย์บอร์ด mechanical ให้กับคนใกล้ตัว มาดูกันเลยดีกว่าว่าใช้คีย์บอร์ดแบบนี้แตกต่างและดีกว่าคีย์บอร์ดธรรมดาอย่างไร

  • มีความทนทานมากกว่าคีย์บอร์ดธรรมดา เนื่องจากมีการเลือกใช้วัสดุที่หลากหลาย อีกทั้งบางแบรนด์เราสามารถคัสตอมได้เอง
  • เมื่อพังไม่ต้องซื้อใหม่ หากสวิตซ์พังเพียงแค่หาอะไหล่มาเปลี่ยนก็สามารถใช้งานต่อได้ทันที ไม่เหมือนคีย์บอร์ดธรรมดาที่แทบจะซ่อมไม่ได้เลย
  • สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ตัวคีย์แคปของ Mechanical Keyboard สามารถแกะออกมาทำความสะอาดได้อย่างสะดวกสบาย
  • มีให้เลือกซื้อหลายขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละบุคคล
  • มีฟังก์ชั่น N-Key rollover หรือถ้าให้อธิบายง่ายๆก็คือการกดปุ่มพร้อมกันหลายๆปุ่มได้ ซึ่งในวงการเกมเมอร์ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เช่น เวลากดสกิลถ้าใช้คีย์บอร์ดแบบแมคคานิคอลจะกดพร้อมกันแล้วสกิลออกได้ทันที ถือว่าไวกว่าคีย์บอร์ดธรรมดาแน่นอน

 ทั้งนี้การเลือกใช้คีย์บอร์ดควรเลือกให้เหมาะสมกับสิ่งที่เราจะทำ หรืองานที่เราจะทำ ไม่จำเป็นต้องหาซื้อคีย์บอร์ดแพงๆเพียงอย่างเดียว เพราะ mechanical keyboard ราคาไม่เกิน1000 ที่ใช้ดีๆก็มีอีกหลายยี่ห้อ แถมบางยี่ห้อยังเป็น mechanical keyboard ราคาถูก และดีอีกด้วย ดังนั้นก่อนซื้อต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก ว่าต้องการเล่นเกมอยู่บ้านหรือใช้ในการทำงานที่ออฟฟิศเป็นหลัก รวมถึงประเภทของสวิตซ์คีย์บอร์ดที่ต้องการจะใช้อีกด้วย เพราะถือเป็นหัวใจหลักของคีย์บอร์ดประเภทนี้เลยทีเดียว

Credit : Blogtechtoday
บทความที่คุณอาจสนใจ : รถไฟฟ้า