ระบบai จะเข้ามาแทนที่มนุษย์จริงหรือ ?

ระบบai

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (ai) คืออะไร ?

ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือที่มักจะเรียกกันสั้นๆว่า ai ระบบai เป็นหนึ่งในนวัตกรรมจากวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่เน้นให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ในระยะเวลาที่สั้นกว่าเดิม ซึ่งฐานข้อมูลจะได้มาจากที่มนุษย์ป้อนข้อมูลเข้าไปให้หรือสอนกระบวนการเรียนรู้ให้กับเอไอ ซึ่ง เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ได้ถูกนำเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์อยู่อย่างมากมาย  อีกทั้งยังสามารถช่วยในการทำงานได้อีกด้วย เพราะสิ่งที่สำคัญเลยคือ เข้ามาเป็นตัวช่วยให้กับมนุษย์ให้สามารถทำสิ่งต่างๆได้ไวและง่ายมากขึ้น แถมยังลดระยะเวลาไปได้มากเลยทีเดียว

ระบบai ในชีวิตประจำวัน

หลายๆคนอาจจะนึกไม่ถึงว่ามี เทคโนโลยี ai อยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากมายขนาดไหน และแน่นอนว่าเราอาจจะใช้งานเอไอทุกๆวันแต่เราแค่ไม่รู้ก็เท่านั้นเอง ซึ่งจะแสดงให้เห็นเลยว่า เอไอมีส่วนช่วยในการทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นอย่างมากมายเลยทีเดียว มาดูเลยดีกว่าว่า ai ในชีวิตประจําวัน มีอะไรและ ai ทําอะไรได้บ้าง ?

ระบบai
  1. Google Map : บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งแอพลิเคชั่นที่ใช้เทคโนโลยีจาก AI ที่หลายๆคนใช้ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะใช้เพื่อดูเส้นทาง หรือดูสภาพการจราจรเพื่อวางแผนการเดินทางได้แบบเรียลไทม์ก็ได้
  2. Social Media : อาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรแต่จริงๆแล้วเอไอ มีส่วนในการวิเคราะห์พฤติกรรมจากการใช้งานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นโพสที่คุณชื่นชอบหรือโพสไหนที่คุณมีแนวโน้มจะสนใจ ai ก็มักจะแสดงข้อมูลเหล่านี้ขึ้นมาอยู่บนไทม์ไลน์ของคุณ เนื่องจากตรงกับความต้องการนั่นเอง
  3. การสั่งงานด้วยเสียง : ถ้าพูดถึงการสั่งงานด้วยเสียงที่ทุกคนน่าจะรู้จัก คงไม่พ้น Siri,Alexa สามารถสั่งงานได้ รวมถึงถามคำถามได้ โดยทางเอไอจะประมวลผลและหาคำตอบมาให้กับผู้ใช้งาน
  4. Face ID : ที่เรามักจะใช้ปลดหน้าจอโทรศัพท์มือถือกันทุกๆวัน โดยใช้ นวัตกรรมที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ ด้วยเทคโนโลยี biometrics ซึ่งจะให้ตัวAIมีการเรียนรู้และจดจำใบหน้า หรือก็คือการให้AIจดจำใบหน้าในการแสกนครั้งแรก และเมื่อต้องการปลดล็อกครั้งต่อๆมาAIจะมีการเปรียบเทียบว่าคนปลดล็อกใช่คนเดิมหรือไม่ 
  5. Google Search : เป็น Ai ตัวแรกๆที่ทุกคนได้ใช้เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลอะไร เราก็มักจะมาถามหรือหาจาก Google ถือว่าเป็น Search engines ที่มีประโยชน์และมีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับต้นๆเลย

ประเภทของ Artificial intelligence

ระบบai

Machine Learning (ML)

เป็นการเรียนรู้ข้อมูลหรือปรับปรุงข้อมูล โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ใดๆเพิ่มเติม ซึ่งสามารถรับข้อมูลที่ถูกป้อนจากมนุษย์และนำไปประมวลผลได้ ซึ่งเอไอสามารถเรียนรู้ข้อมูลที่ซับซ้อนได้ ซึ่งสามารถจำแนกออกได้อีก 3 ประเภทตามการเรียนรู้ของเครื่อง คือ Supervised Learning,Unsupervised Learning และ Reinforcement Learning

Robotics

ในภาคธุรกิจหลายๆธุรกิจจะพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อให้สามารถทำงานเลียนแบบมนุษย์ได้ ตอบโต้กับมนุษย์ได้ สามารถนำมาช่วยลดการทำงานซ้ำซ้อนได้อย่างดีทีเดียวถือเป็น ข้อดีของai ที่เหล่านักธุรกิจชื่นชอบ และในปัจจุบันก็ยังคงมีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามความต้องการของมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ

Artificial Neural Networks (ANN)

รูปแบบของ แนวคิดด้านปัญญาประดิษฐ์ ที่ต้องการให้เอไอสามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับสมองของมนุษย์มากที่สุด ซึ่งมีการเรียนรู้หลายขั้นตอนโดยเน้นให้ โครงข่ายประสาทเทียม (Neural Network) ในการเรียนรู้จากระดับง่ายๆไปจนถึงซับซ้อน ซึ่งจะมีจำแนกการเรียนรู้ของเอไอแบบนี้ออกเป็น 3 ประเภท คือ Deep learning ,Convolutional neural networks (CNN) และ Recurrent neural network (RNN)

ข้อดีในการใช้ Ai

หลายๆคนอาจจะนึกไม่ถึงว่ามี เทคโนโลยี ai อยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากมายขนาดไหน และแน่นอนว่าเราอาจจะใช้งาน ai ทุกๆวันแต่เราแค่ไม่รู้ก็เท่านั้นเอง ซึ่งจะแสดงให้เห็นเลยว่า ai มีส่วนช่วยในการทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นอย่างมากมายเลยทีเดียว มาดูเลยดีกว่าว่า ai ในชีวิตประจําวัน มีอะไรและ ai ทําอะไรได้บ้าง ?

  1. ลดความผิดพลาดในการทำงาน : หากใช้เอไอตั้งโปรแกรมสั่งงานเอาไว้ รับประกันได้เลยว่า ผลงานที่ได้รับจะออกมาอย่างดี โดยที่มนุษย์ไม่ต้องมานั่งทำให้เสียเวลา หลายๆอย่างใช้เอไอ ทำช่วยให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นอีกด้วย
  2. ประหยัดเวลาในการทำงาน : อย่างการใช้เอไอเพื่อช่วยในการสรุปข้อมูลจำนวนเยอะๆ จะสามารถช่วยลดระยะเวลาในการทำงานได้มาก และเรายังได้รับข้อมูลที่มีการวิเคราะห์และสรุปมาอย่างละเอียด
  3. ความพร้อมในการทำงาน : เนื่องจากเอไอเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์จึงสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีขีดจำกัดในเรื่องของเวลาในการทำงาน
ระบบai

อนาคต ระบบai จะครองโลกจริงหรือไม่ ?

อย่างที่บอกว่าข้อมูลในข้างต้นแสดงให้เห็นถึงข้อดีของเอไอเพียงบางส่วน ที่แน่นอนว่าสามารถช่วยประโยชน์กับมนุษย์ได้ค่อนข้างมาก แต่สำหรับ ข้อเสียของ ai ที่สามารถมองเห็นได้จากในปัจจุบันก็คือ มนุษย์สูญเสียโอกาสในการประกอบอาชีพที่เอไอสามารถทำงานแทนได้ ในบางบริษัทก็ตัดสินใจใช้เอไอหรือหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่การทำงานของมนุษย์ ถือว่าเป็นข้อเสียข้อใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อคนหลายคนเลยทีเดียว แน่นอนว่าทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย หลายๆองค์กรจะต้องตระหนักถึงปัญหาเรื่องการสูญเสียอาชีพของมนุษย์ไปพร้อมๆกับการที่จะนำเอไอเข้ามาใช้งานเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการทำงานได้

Credits : Blogtechtoday
บทความที่คุณอาจสนใจ  : Wifi